chesster-rpk.com gallery album captions et cetera
storyboard
 
Published on August 21, 2021
#DoWhatYouLove #EatWhatYouLike #GoEverywhereYouWantToGo
Chapter 2 Houtong Dali : Cat And Coast
 
October 5th 2019, Houtong Dali
"หมู่บ้านแมวและชายหาดที่พระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน"
โรงแรมที่ไปนอนชื่อ Energy Inn Main Station อยู่ใกล้กับสถานีกลางไทเป น้องที่รู้จักเคยไปนอน ก็เลยตัดสินใจไปนอนโรงแรมที่ไม่ใช่ซีเมินติ่งบ้าง แต่ก็ไม่ไกลกันมาก แถมสุดท้ายก็เดินไปหาอะไรกินที่ซีเมินติ่งอยู่ดี

อีกอย่างที่ตัดสินใจจองโรงแรมนี้เพราะวางแผนว่าจะเดินทางหลายเส้นทางและหลากหลายประเภท พักใกล้สถานีกลางจึงน่าจะทำให้สะดวกขึ้นในการเดินทางไปกลับแต่ละวัน

โรงแรมไม่มีอาหารเช้า แต่มีคูปองให้ไปกินร้านอาหารใกล้โรงแรมแทน ก็ดีนะแถมเลือกด้วยว่าจะกินอะไร ร้านที่ไปกินน่าจะเป็นร้านอาหารเช้า แต่ก็มีข้าวแบบอาหารกลางวันขายด้วย

แผนการเดินทางที่วางไว้ผิดแผนหมด เพราะพอเดินทางเข้าจริงๆ มันใช้เวลาเยอะกว่าที่วางไว้มาก การขนส่งไม่ใช่ปัญหา ปัญหามันคือขาของข้าพเจ้า

ไปเที่ยวแต่ละทีเดินไกลมาก Beitou นี่เดินเป็นกิโลนะ ไปกลับขาลากก็แล้วกัน

ก็เลยต้องวางแผนใหม่ เผื่อการเดินทางและการเดินเท้าด้วย

วันนี้จะไปหาน้องแมวที่ Houtong ไปร่วมลุ้นกับการซื้อตั๋วรถไฟกัน ปะ
ชานชลา Taipei Main Station
จะว่าไป นี่เป็นครั้งแรกเลย ที่มาที่นี่คนเดียวจริงๆ เพราะอาเหว่ยไม่อยู่ไทเป ไม่มีตัวช่วยละคราวนี้ นี่ยังจะวางแผนเดินทางด้วยระบบขนส่งของไทเปให้ครบทุกอย่างซะด้วยนะ ช่างกล้าจริงๆ

ข้าพเจ้าศึกษาการซื้อตั๋วรถไฟที่ไต้หวันมาบ้าง แต่พอเจอหน้างานนี่จบเลย มันเป็นตู้ที่ไม่มีคนขาย (ไม่แน่ใจว่าหาตู้ที่มีคนขายไม่เจอหรือเปล่า) โชคดีที่รู้ว่าปลายทางจะไปที่ไหนและตู้มันเขียนภาษาอังกฤษไว้ Houtong รอดตัวไปหนึ่งอย่าง ต่อไปคือจะไปช่องไหน เพราะตั๋วเป็นภาษาจีนหมด

ตัวช่วยอีกหนึ่งคือ App ของ Taiwan Railway ซึ่งจะบอกหมดเลยว่าเราจะเดินทางอย่างไร ต้นทาง ปลายทาง ขบวนรถที่ไปได้มีอะไรบ้าง ราคาเท่าไหร่ นั่นทำให้วางแผนได้ดีทีเดียว แถม App นี้ยังติดตามรถไฟแบบ Realtime อีกต่างหาก ดีมากๆ

จาก App ทำให้เรารู้ว่าเราจะไปรถขบวนไหน ตั๋วที่ซื้อจะไปขบวนไหนก็ได้ที่ผ่านปลายทางของเรา เพราะฉะนั้น ถ้าพลาดขบวนที่ตั้งใจไว้ ก็ไม่ต้องซื้อใหม่

มาเดาเอาได้ทีหลังว่าไม่ต้องซื้อตั๋วก็ได้ถ้ามี Yoyo Card แค่รู้ว่าขบวนไหนออกลานชลาไหนก็ไปแตะบัตรที่หน้าชานชลานั้นได้เลย

ลุ้นตั้งแต่ซื้อตั๋ว รอรถ ยันขึ้นรถ ดูซิจะถึงหมู่บ้านแมวไหม ว่าแต่ทำไมคนไทยเยอะจังวะ ไปไหนก็เจอ

แม้คุณจะเป็นคนไม่มีระเบียบ แต่อยู่ในระบบที่ดี คุณจะโอเค ข้าพเจ้ารู้ว่าแม้ไปผิดทางแต่รถไฟไต้หวันจะพาข้าพเจ้ากลับไทเปได้ อยากให้สารขันธ์เป็นอย่างนี้บาง เราอยู่ในระบบที่พร้อมจะถูกแหกและมีข้อยกเว้นเยอะมาก แต่ก็อย่างว่า เพราะเราผ่านระบบนั้นมา เราถึงได้แกร่งอย่างนี้

ธัมโม สังโฆ รถไฟไต้หวันตรงเวลามาก มากจนน่าตกใจ

เรียนคอมพิวเตอร์ก็ช่วยเรื่องระบบนะ ส่งลูกส่งหลานไปเรียนได้

ยืนบนรถไฟอยู่ชั่วโมงนึงก็มาถึง Houtong หมู่บ้านแมว
บรรดาแมวที่ Houtong 1
ข้าพเจ้านึกว่ามาเที่ยวพัทยา คนไทยเยอะมาก

ข้าพเจ้าไม่ได้มาหมู่บ้านแมวสัก 2-3 ปีได้ หมู่บ้านแมวเปลี่ยนไป ดูทรุดโทรมลง ไม่แน่ใจว่ายังได้รับความนิยมอยู่หรือเปล่า แต่เห็นกำลังซ่อมแซมอยู่หลายๆจุด แต่ก็ยังเห็นร้านรวงเปิดเหมือนเดิม เพียงแต่รู้สึกหาแมวยากขึ้นเท่านั้นเอง

ตอนแรกจะถ่ายแมว 100 ตัว 20 ตัวหาให้ได้ก่อนเหอะ

ข้าพเจ้าต้องเสียเงินนั่งร้านน้ำชาเพื่อถ่ายรูปแมว ซึ่งงงงงง ปรากฏว่าถ่ายไม่งามเพราะไฟมันสีเหลือง เลยไม่ได้ใช้

แมวดำสวยนะ แต่ถ่ายยาก อีกอย่าง แมวมันไม่ให้ความร่วมมือสักเท่าไหร่ ไหนจะคนที่มาเที่ยวรอถ่ายรูปอีก

เดินอยู่เกือบ 2 ชั่วโมงก็ได้แมว 20 ตัว พอละนะ
บรรดาแมวที่ Houtong 2
ปัญหาเกิดละ ร้านชาต่างๆข้าพเจ้าพอจะเดาได้และส่วนใหญ่มีเมนูภาษาอังกฤษ แต่ร้านอาหารแบบท้องถิ่นที่นี่ไม่ใช่ ภาษาจีนล้วนๆ ทำไงดีเนี่ย ถึงมันจะเป็นร้านบะหมี่เกี๊ยวคล้ายๆบ้านเรา แต่คนเรื่องมากในการกินอย่างข้าพเจ้าต้องเห็นรูปก่อน ว่ากินได้ไหม แถวสถานีเมืองแมวไม่มีร้านอย่างว่า ข้าพเจ้าต้องเดา

เชื่อไหม ข้าพเจ้าเดินวนร้านแถวสถานีโฮวต่งอยู่ 3 รอบ เข้าไปใน 7-11 ก็มีของกินนะ แต่คิดในใจ มาถึงนี่ยังจะมากินข้าว 7-11 อีกเหรอ จึงตัดสินใจเดินเข้าร้านนึงที่มีการลวกหมี่และเกี๊ยวโชว์หน้าร้าน เอาละ อย่างน้อยก็ได้กินเกี๊ยว อย่างอื่นช่างมัน

สิ่งที่ข้าพเจ้าพบคือเมนูภาษาจีนล้วนๆ ถึงเวลา Translate App ทำงานละ จิ้มไปเลย เกี๊ยว บะหมี่ หมู แปลไทยเป็นจีน แล้วยื่นให้เจ้าของร้านดู เจ้าของร้านมองหน้าแล้วพูดว่า คนไทยใช่ไหม แล้วบอกว่า “หมี่เกี๊ยวหมู” เป็นภาษาไทยและเสียงดังฟังชัด อเมซิ่งมาก ทรายงงมาก ณ จุดนี้!!!

แต่ก็เหมือนเดิม คือ กินไม่หมด ชามมันใหญ่มาก ถามว่าอร่อยไหม ไม่อร่อยมาก แต่ประทับใจมาก

อเมซิ่งยิ่งกว่าเมื่อคุณลุงเจ้าของร้านบอกราคาเป็นภาษาไทย “หนึ่งร้อยสิบบาท” แถม "ขอบคุณครับ"
ร้านหมี่เกี๋ยวที่พูดไทยได้!!!
กินข้าวแล้ว ก็ได้เวลามุ่งหน้าสูู่ต้าลี่ บ่ายกว่าๆตามเวลาที่ App บอกไว้

การซื้อตั๋วจากสถานีบางแห่งจะต่างไปหน่อย แต่สำหรับข้าพเจ้า คิดว่ามันง่ายกว่าและชัวร์กว่าซื้อที่ตู้ บางสถานีไม่มีตู้ขาย ต้องซื้อกับพนักงาน สิ่งที่คุณต้องรู้คือ เลขที่ขบวนรถและควรรู้เวลาที่มาถึงสถานีนั้นๆ ที่สถานีจะมีตารางบอกว่าขบวนรถที่ผ่านจะมาถึงเมื่อไหร่

ซื้อตั๋วเสร็จก็มานั่งรอที่ชานชลาตามที่ระบบบอกไว้ นั่งไปนั่งมาทำตั๋วหาย ต้องวิ่งไปซื้อตั๋วใหม่อีกรอบ
ตั๋วรถไฟที่ต้องซื้อ 2 รอบ
สถานีรถไฟ Houtong
ต้าลี่เป็นเมืองที่ข้าพเจ้าไม่เคยไป เห็นแต่ใน Google Map เดาอะไรไม่ได้เลยว่าจะไปทางไหนยังไง ต้องเดาสุ่มเดินไปตามแผนที่เท่านั้น

ที่มาเมืองนี้เพราะเห็นจาก Google Map ว่ามีโขดหินตามชายฝั่งเยอะ จะมาถ่ายรูปแบบต้มทะเลสวยๆ อย่างที่เขาถ่ายกัน

นั่งรถไฟมาอีกเกือบๆชั่วโมงก็ถึงสถานีต้าลี่ ตื่นตาตื่นใจที่สถานีรถไฟอยู่ติดกับทะเลเลย แต่ก็แปลกใจเอ๊ะทำไมไม่ค่อยมีใครมาเที่ยวแถวนี้ หรือเราจะเป็นผู้บุกเบิก คิดไปก็ยิ้มไป

มาถึงข้าพเจ้าก็เดินไปที่ทางขึ้นเขาเลย ตั้งจะไปถ่ายรูปจากบนเขา แต่พอเดินไปเจอตารางเวลาที่เขาคาดว่าจะต้องใช้ในการขึ้นเขาก็เปลี่ยนใจ ข้าพเจ้ามาถึงตอนบ่าย 3 กว่าจะลงมาถึงก็ 5 โมงเย็น ไหนจะต้องดูเวลารถกลับไทเปด้วย

แต่อีกอย่างนึงที่ทำให้ถึงบางอ้อว่าทำไมผู้คนไม่มาแถวนี้กัน
ชายหาดเมือง Dali
เมืองต้าลี่อยู่ฝั่งตะวันออก มันจะมีพระอาทิตย์ตกดินได้ยังไงไอ้ทิด!! ถ้าจะต้มทะเลมันต้องถ่ายฝั่งที่พระอาทิตย์ตกดินก่อนไหม

อุปกรณ์ที่ขนเอามาจะต้มทะเล ไม่ได้ใช้สักกะอัน ทดลองใช้ ND 10 อยู่อันนึง มันช้าอ่ะ ไม่ทันใจข้าพเจ้า แถมทุกอย่างมันมีพิธีรีตองไปหมด เลยลัดขั้นตอน เอาที่สะดวกเรา ไม่เปิดหน้ากล้องเป็น 10 นาทีอย่างที่ควรจะทำ เอาที่สะดวก ผลออกมาก็ดีนะ แต่ถ่ายแบบไม่มี ND มันสะดวกและได้รูปเยอะกว่า

ที่เอามาด้วยเป็นอุปกรณ์ถูกหมดเลย เพราะของถูกกับของแพงราคามันต่างกันมากๆ เป็น 10 เท่าเลย เลยเอาของถูกมาลองก่อน ก็ได้รู้ว่า แล้วแต่เราชอบ ถ้าเราทฤษฏีไม่จ๋ามาก ของถูกก็ใช้ได้แหละ

ปรากฏว่าถ่ายมาแล้ว ข้าพเจ้าชอบรูปที่ไม่ใช้อุปกรณ์มากกว่า ขนมาทำไมเนี่ย

ข้าพเจ้าไม่แต่งรูป เพราะฉะนั้น ถ้าแสงไม่ได้แล้ว ข้าพเจ้าก็จบข่าวทันที

ต้าลี่หากจากไทเปประมาณ 2 ชั่วโมง รถไฟมาทุกๆชั่วโมง ข้าพเจ้ามารู้ที่ต้าลี่นี่แหละว่าตั๋วรถไฟไม่ต้องซื้อ แตะบัตร Yoyo card ที่ทางเข้าเอาก็ได้

ตั้งใจว่ากลับจากต้าลี่จะไปปีนเขาถ่ายตึก 101 ตอนกลางคืนต่อ แต่ไมไหวละ
เลยตัดตอนไปตลาดกลางคืน Raohe Street แทน ลงสถานีรถไฟ เดินแป็บเดียวก็ถึงเลย

ของกินเยอะมาก น่ากินทั้งนั้น แต่ข้าพเจ้ากินเกี๊ยวไป 7 ตัวก็อิ่มแล้ว

แต่อยากกินอีก เลือกไปกินร้านชาบู ร้านชาบูคนเดียวที่ไต้หวันก็สนุกนะ เขาติดราคาไว้ว่าสิ่งที่เราอยากกินแต่ละอย่างราคาเท่าไหร่ สั่งเสร็จก็ไปจ่ายเงิน เนื่องจากเราอ่านภาษาจีนไม่ได้เลย เลยไม่เข้าใจว่าผักที่สั่งไป 4-5 อย่างนั้นต้องจ่ายตังค์ด้วย คือเข้าใจว่าซื้อแต่หมูผักฟรีเหมือนร้านยำบ้านเรา มิน่าละ พอเดินไปจ่ายตังค์แม่ค้าก็มองหน้าเราเหมือนกับจะบอกว่ามึงจะกินหมดเหรอสั่งผักเยอะขนาดนี้ เพราะเนื่องจากผักก็คิดราคาเขาก็เลยให้มาเยอะมากแต่ละอย่าง พอเขาเอามาเสิร์ฟที่โต๊ะเท่านั้นแหละ ถึงได้ถึงบางอ้อ พอมาเยอะกินไม่หมดอีก เพราะอิ่มตั้งแต่เกี๊ยวแล้ว ตอนออกจากร้านก็อาศัยจังหวะคนเข้าร้านเยอะๆแล้วเราก็แอบหนีออกมา กลัวเขารู้ว่ากินไม่หมด แต่แอบบอกไว้อย่าง น้ำจิ้มชาบูบ้านเราแซ่บกว่าเยอะ
ตลาดกลางคืน Raohe St. Night Market
ศาลเจ้าหน้าตลาด Raohe
home
gallery
album
caption
etc.